ก่อนอื่นต้องขอแนะนำให้ไม่ว่าเกิดเหตุการณ์ไม่ดี อันใดขึ้น วิธีป้องกันตัวที่ดีที่สุดคือ "การหนี" ออกจากสถานการณ์นั้น เพราะ เราไม่ควรจะสู้รบ ผู้ไม่ประสงค์ดีที่เตรียมการมาเป็นอย่างดี แต่หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ การใช้ สเปรย์ป้องกันตัว และ การต่อสู้ด้วยวิธีต่างๆ ที่เราคงจะหาเรียนได้จากโรงเรียนสอนการป้องกันตัวทั่วไปนะ
แนะนำกันอีกนิดว่า "อย่าต่อสู้" ถ้าไม่จำเป็น เพราะไม่มีผู้ร้ายคนใดที่จะไม่เตรียมอาวุธมา แต่ถ้าไม่มีทางเลือกทำตามข้อต่อไปนี้ คงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
เมื่อมีคนเข้ามาจะทำร้ายคุณ (ก่อนอื่นคุณต้องสติ อย่าตกใจเกินเหตุ) ถ้าคนร้ายอยู่ในระยะไกลจากเราประมาณ 1-2 เมตร เราขอแนะนำให้คุณมีสติแล้วเล็งสเปรย์พริกไทยฉีดไปที่ใบหน้าของคนร้ายโดยเฉพาะตา แล้ววิ่งหนีและร้องเรียกให้คนช่วย
แต่ถ้าคนร้ายอยู่ในระยะใกล้เราแบบเข้ามาประชิดตัว มันไม่มีทางเลือกที่เราต้องสู้เพื่อเป็นการป้องกันตัว
พื้นฐานที่สำคัญที่สุด
คือ เราควรจะรู้จุดเปราะบางของร่างกายผู้ชาย ซึ่งมีอยู่หลายจุด
จุดเปราะบางของร่างกายผู้ชาย
ร่างกายมีจุดเปราะบางหลายจุด ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญในการป้องกันตัว แต่เราก็อย่าลืมป้องกันจุดที่เปราะบางที่สุดของเราเช่นกัน
1. ตา
การทำให้ตาของคนร้ายได้รับการบาดเจ็บ จะทำให้เขาเสียการมองเห็นไปชั่วคราวหรือถาวร ซึ่งจะทำให้คุณสามารถหลบหนีออกไปได้แต่การที่จะทำให้ตาของคนร้ายถึงกับบอดควรจะเป็นสิ่งสุดท้าย เช่น เมื่อชีวิตคุณตกอยู่ในอันตรายอย่างใหญ่หลวง หรือเพื่อป้องกันการถูกทำร้ายอย่างรุนแรง เช่น การข่มขืน
2. หู
หูเป็นเป้าหมายการจู่โจมที่สำคัญ เพราะคุณสามารถกัดได้ง่าย การใช้ฟันกัดลงไปบนติ่งหูของคนร้ายในขณะที่เขากำลังทำร้ายคุณอยู่ จะทำให้เขาเจ็บปวดมาก และอาจใช้เล็บที่ยาวและแหลมทิ่มเข้าไปในรูหูจะทำให้เขาเจ้บปวดมาก
การใช้ฝ่ามือตบเข้าไปตรงกกหูของคนร้ายพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง จะส่งกระแสความมึนงงเข้าไปในสมองของเขา และอาจทำให้สิ้นสติได้
จมูกเป็นส่วนที่ยื่นออกมาจากใบหน้าเหนือนกับหูทำให้เป็นเป้าหมายของการกัด หรือการตบด้วยหมัดได้อย่างดี คุณต้องกัดหรือชกเข้าไปให้แรงที่สุด พอที่จะทำให้เขาชะงักการทำร้ายคุณ หมัดเสยขึ้นข้างบนจะทำให้ศีรษะของคนร้ายเงยขึ้น เปิดโอกาสให้คุณเล่นงานคอหอยเขาได้
การใช้ เล็บแหลมๆ ทิ่มเข้าไปในรูจมูก จะทำให้เขาเจ็บปวดมากพอๆกับการทิ่มเข้าไปในรูหู
3. คอและคอหอย
คอและคอหอยเป็นจุดที่เปราะบางมาก เพราะเป็นจุดที่เต็มไปด้วยท่อและหลอดต่างๆที่ช่วยให้เรามีชีวิตอยู่ได้ เส้นเลือดใหญ่สองเส้นที่ส่งเลือดไปเลี้ยงสมองตั้งอยู่ตื้นๆใต้ผิวหนังสองข้างของลำคอถ้าเส้นเลือดเส้นใดเส้นหนึ่งถูกทำลายสามารถทำให้ถึงตายได้ หลอดลมตรงลำคอก็เป็นจุดที่อันตราย เพียงชกเข้าแบบเบาๆที่ลำคอก็จะทำให้คนร้ายหมดสมรรถภาพที่จะมาทำร้าย และทำให้คุณมีเวลาที่จะหลบหนีออกไปได้ การชกอย่างแรงเพียงครั้งเดียวที่ลำคอสามารถทำให้คนร้ายหมดสติได้เหมือนกัน
4. ช่องท้องและลิ้นปี่
การชกที่หัวใจ โดยมุ่งเป้าหมายไปที่ทรวงอกตรงจุดที่กระดูกซี่โครงเริ่มแยกตัวออกเป็นซี่ๆจะมีผลที่ร้ายแรงต่อคนร้าย การชกอย่างแรงเข้าไปที่ท้องจะทำให้คนร้ายหายใจไม่ออก
5. ลูกอัณฑะ
ถึงแม้การเตะหรือชกแรงๆเข้าไปที่บริเวรขาหนีบ จะทำให้ผู้หญิงเจ็บปวดมาก แต่การถูกเตะหรือชกที่บริเวณลูกอัณฑะจะทำให้ผู้ชายเจ็บปวดมากกว่าถึงสามเท่า และเป็นไปได้ที่จะบีบและบิดลูกอัณฑะของคนร้าย ถึงแม้ว่าขั้นตอนดังกล่าวจะดูน่าขยะแขยง แต่มันจะมีผลกระทบรุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อต่อคนร้าย
ทั้งนี้ต้องอย่าสับสน ระหว่างการ บีบลูกอัณฑะ กับ บีบองคชาติ การบีบหรือแตะลูกอันฑะ[ลูกมะกรูด] (Hi-Ligth สีแดง) ถึงใช้แรงไม่มาก ก็สามารถทำให้เกิดความเจ็บปวดได้มากมาย แต่เข้าใจผิด บีบองค์ชาติ [กล้วย] จะไม่ทำให้คนร้ายเจ็บปวดเลย
6. นิ้ว
ในการสู้แรงผู้ชายอาจจะยาก แต่ถ้าเรากำนิ้ว คนร้ายได้ถนัดๆ สักนิ้วหนึ่ง (ถ้าเป็นนิ้วก้อยจะดีมาก) แล้วหักสวนทางไปทางหลัง อย่างสุดแรง แรงข้อมือผู้หญิงตัวเล็กก็สามารถทำให้กระดูกนิ้วของผู้ขายได้
7. ขาด้านล่าง ( น่อง )
การชกหรือตีเข้าไปที่ข้อพับตรงหัวเข่า เป็นสิ่งที่รับประกันว่าสามารถจะหยุดยังคนร้ายที่ไล่ล่าคุณได้ สำหรับผู้หญิงที่ใส่ ส้นสูง การจับรองเท้าส้นสูงตี ที่หน้าแข้ง ก็เป็นอีกวิธีที่สามารถหยุดคน้รายได้ชั่วคราว
8. หลังเท้า
ในกรณีที่คุณถูกรัดตัวไว้ในท่าหมี < bear hug > หรือถูกตะปบจากทางด้านหลัง ขาของคนร้ายเป็นจุดที่คุณจะจัดการกับเขาได้เป็นอย่างดีเพื่อให้หลุดออกไปจากการจู่โจมของเขา การกระทืบลงไปบนนิ้วเท้าของเขาก็จะมีผลทำนองเดียวกัน
--------------------------------------
ดัดแปลงมาจาก หนังสือ SAS Self-Defenc หลบหลีก ตั้งรับ ต่อสู้ ป้องกันตัวเอง
โดย Barry Davies เรียบเรียงโดย ประภาวดี จิลลานนท์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น