ผู้หญิงต้องเรียนรู้การป้องกันตัว ถ้ามีภัยร้ายเกิดขึ้นควรทำอย่างไร - BeeLoSoPhy

BeeLoSoPhy

ไลฟ์สไตล์ ท่องเที่ยว ออกกำลังกาย ครอบครัว สุขภาพ

4 กรกฎาคม 2559

ผู้หญิงต้องเรียนรู้การป้องกันตัว ถ้ามีภัยร้ายเกิดขึ้นควรทำอย่างไร

  


 ก่อนอื่นต้องขอแนะนำให้ไม่ว่าเกิดเหตุการณ์ไม่ดี อันใดขึ้น วิธีป้องกันตัวที่ดีที่สุดคือ "การหนี"  ออกจากสถานการณ์นั้น เพราะ เราไม่ควรจะสู้รบ ผู้ไม่ประสงค์ดีที่เตรียมการมาเป็นอย่างดี แต่หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ การใช้ สเปรย์ป้องกันตัว และ การต่อสู้ด้วยวิธีต่างๆ ที่เราคงจะหาเรียนได้จากโรงเรียนสอนการป้องกันตัวทั่วไปนะ

       แนะนำกันอีกนิดว่า "อย่าต่อสู้" ถ้าไม่จำเป็น เพราะไม่มีผู้ร้ายคนใดที่จะไม่เตรียมอาวุธมา แต่ถ้าไม่มีทางเลือกทำตามข้อต่อไปนี้ คงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด


    เมื่อมีคนเข้ามาจะทำร้ายคุณ (ก่อนอื่นคุณต้องสติ อย่าตกใจเกินเหตุ) ถ้าคนร้ายอยู่ในระยะไกลจากเราประมาณ   1-2 เมตร  เราขอแนะนำให้คุณมีสติแล้วเล็งสเปรย์พริกไทยฉีดไปที่ใบหน้าของคนร้ายโดยเฉพาะตา   แล้ววิ่งหนีและร้องเรียกให้คนช่วย

 แต่ถ้าคนร้ายอยู่ในระยะใกล้เราแบบเข้ามาประชิดตัว มันไม่มีทางเลือกที่เราต้องสู้เพื่อเป็นการป้องกันตัว

พื้นฐานที่สำคัญที่สุด   
คือ  เราควรจะรู้จุดเปราะบางของร่างกายผู้ชาย ซึ่งมีอยู่หลายจุด


                             ป้องกันตัว



จุดเปราะบางของร่างกายผู้ชาย
ร่างกายมีจุดเปราะบางหลายจุด   ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญในการป้องกันตัว   แต่เราก็อย่าลืมป้องกันจุดที่เปราะบางที่สุดของเราเช่นกัน


1.  ตา
การทำให้ตาของคนร้ายได้รับการบาดเจ็บ  จะทำให้เขาเสียการมองเห็นไปชั่วคราวหรือถาวร  ซึ่งจะทำให้คุณสามารถหลบหนีออกไปได้แต่การที่จะทำให้ตาของคนร้ายถึงกับบอดควรจะเป็นสิ่งสุดท้าย  เช่น  เมื่อชีวิตคุณตกอยู่ในอันตรายอย่างใหญ่หลวง  หรือเพื่อป้องกันการถูกทำร้ายอย่างรุนแรง  เช่น  การข่มขืน

2.  หู 
หูเป็นเป้าหมายการจู่โจมที่สำคัญ   เพราะคุณสามารถกัดได้ง่าย   การใช้ฟันกัดลงไปบนติ่งหูของคนร้ายในขณะที่เขากำลังทำร้ายคุณอยู่  จะทำให้เขาเจ็บปวดมาก  และอาจใช้เล็บที่ยาวและแหลมทิ่มเข้าไปในรูหูจะทำให้เขาเจ้บปวดมาก
การใช้ฝ่ามือตบเข้าไปตรงกกหูของคนร้ายพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง  จะส่งกระแสความมึนงงเข้าไปในสมองของเขา   และอาจทำให้สิ้นสติได้  
           อีกส่วนหนึ่ง  คือ  จมูก
จมูกเป็นส่วนที่ยื่นออกมาจากใบหน้าเหนือนกับหูทำให้เป็นเป้าหมายของการกัด  หรือการตบด้วยหมัดได้อย่างดี  คุณต้องกัดหรือชกเข้าไปให้แรงที่สุด   พอที่จะทำให้เขาชะงักการทำร้ายคุณ  หมัดเสยขึ้นข้างบนจะทำให้ศีรษะของคนร้ายเงยขึ้น เปิดโอกาสให้คุณเล่นงานคอหอยเขาได้ 
การใช้ เล็บแหลมๆ ทิ่มเข้าไปในรูจมูก  จะทำให้เขาเจ็บปวดมากพอๆกับการทิ่มเข้าไปในรูหู

3.  คอและคอหอย
          คอและคอหอยเป็นจุดที่เปราะบางมาก  เพราะเป็นจุดที่เต็มไปด้วยท่อและหลอดต่างๆที่ช่วยให้เรามีชีวิตอยู่ได้ เส้นเลือดใหญ่สองเส้นที่ส่งเลือดไปเลี้ยงสมองตั้งอยู่ตื้นๆใต้ผิวหนังสองข้างของลำคอถ้าเส้นเลือดเส้นใดเส้นหนึ่งถูกทำลายสามารถทำให้ถึงตายได้  หลอดลมตรงลำคอก็เป็นจุดที่อันตราย  เพียงชกเข้าแบบเบาๆที่ลำคอก็จะทำให้คนร้ายหมดสมรรถภาพที่จะมาทำร้าย  และทำให้คุณมีเวลาที่จะหลบหนีออกไปได้ การชกอย่างแรงเพียงครั้งเดียวที่ลำคอสามารถทำให้คนร้ายหมดสติได้เหมือนกัน


4.  ช่องท้องและลิ้นปี่
                การชกที่หัวใจ  โดยมุ่งเป้าหมายไปที่ทรวงอกตรงจุดที่กระดูกซี่โครงเริ่มแยกตัวออกเป็นซี่ๆจะมีผลที่ร้ายแรงต่อคนร้าย การชกอย่างแรงเข้าไปที่ท้องจะทำให้คนร้ายหายใจไม่ออก


5.  ลูกอัณฑะ




ถึงแม้การเตะหรือชกแรงๆเข้าไปที่บริเวรขาหนีบ  จะทำให้ผู้หญิงเจ็บปวดมาก  แต่การถูกเตะหรือชกที่บริเวณลูกอัณฑะจะทำให้ผู้ชายเจ็บปวดมากกว่าถึงสามเท่า และเป็นไปได้ที่จะบีบและบิดลูกอัณฑะของคนร้าย  ถึงแม้ว่าขั้นตอนดังกล่าวจะดูน่าขยะแขยง  แต่มันจะมีผลกระทบรุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อต่อคนร้าย
ทั้งนี้ต้องอย่าสับสน ระหว่างการ บีบลูกอัณฑะ กับ บีบองคชาติ การบีบหรือแตะลูกอันฑะ[ลูกมะกรูด] (Hi-Ligth สีแดง) ถึงใช้แรงไม่มาก ก็สามารถทำให้เกิดความเจ็บปวดได้มากมาย แต่เข้าใจผิด บีบองค์ชาติ [กล้วย] จะไม่ทำให้คนร้ายเจ็บปวดเลย

6.  นิ้ว
ในการสู้แรงผู้ชายอาจจะยาก แต่ถ้าเรากำนิ้ว คนร้ายได้ถนัดๆ สักนิ้วหนึ่ง (ถ้าเป็นนิ้วก้อยจะดีมาก) แล้วหักสวนทางไปทางหลัง อย่างสุดแรง แรงข้อมือผู้หญิงตัวเล็กก็สามารถทำให้กระดูกนิ้วของผู้ขายได้

7.  ขาด้านล่าง ( น่อง )
การชกหรือตีเข้าไปที่ข้อพับตรงหัวเข่า เป็นสิ่งที่รับประกันว่าสามารถจะหยุดยังคนร้ายที่ไล่ล่าคุณได้  สำหรับผู้หญิงที่ใส่ ส้นสูง การจับรองเท้าส้นสูงตี ที่หน้าแข้ง ก็เป็นอีกวิธีที่สามารถหยุดคน้รายได้ชั่วคราว

8.  หลังเท้า
ในกรณีที่คุณถูกรัดตัวไว้ในท่าหมี  < bear hug >   หรือถูกตะปบจากทางด้านหลัง  ขาของคนร้ายเป็นจุดที่คุณจะจัดการกับเขาได้เป็นอย่างดีเพื่อให้หลุดออกไปจากการจู่โจมของเขา  การกระทืบลงไปบนนิ้วเท้าของเขาก็จะมีผลทำนองเดียวกัน




--------------------------------------

ดัดแปลงมาจาก  หนังสือ  SAS  Self-Defenc  หลบหลีก  ตั้งรับ  ต่อสู้  ป้องกันตัวเอง
                                                                                                                                         โดย  Barry   Davies  เรียบเรียงโดย  ประภาวดี  จิลลานนท์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น