เทรนด์การทำงาน การใช้ชีวิต ธุรกิจยุคปัจจุบัน มีแนวโน้มใช้ระบบควบคุมการทำงาน ตรวจสอบผลลัพธ์ของการทำงานกันมากขึ้น รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจตกสะเก็ด ส่งผลให้พนักงานประจำต้องหารายได้ทางที่สอง เพื่อให้เพียงพอในการดำรงชีวิต เลี้ยงดูครอบครัว เป็นเงินใช้จ่ายยามเกษียณ บทความนี้ผมจะเล่าให้ฟังว่า ถ้าคุณต้องการมี Passive Income ควรมีหลักคิดอย่างไรเพื่อให้ได้อิสรภาพที่แท้จริง
10 ขั้นตอนในการเรียนรู้พื้นฐาน Passive Income
1. รวยเร็ว รวยง่าย สบายจัง
หลายคนคิดว่า Passive Income รวยเร็ว รวยง่าย เห็นปกนิตยสารนักธุรกิจ ถ่ายรูปกับรถหรูก็อุทานในใจว่า เฮ้ย ! ฉันน่าจะทำได้ ไม่น่ายาก ลงทุนแค่หลักพัน หลักหมื่น แค่นี้ก็ได้ Passive Income แล้ว
นั่นเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องทั้งหมด เพราะสิ่งที่คุณเห็น เป็นการแสดงออกถึงสัญลักษณ์ความสำเร็จ หรือ การเข้าไปอยู่ใน Club ของคนรวย จึงจำเป็นที่ต้องมีภาพอย่างที่เห็น เบื้องหลังแท้จริงคือ ลงทุน ทุ่มเวลา เรียนรู้ ฝึกฝน หาประสบการณ์
ล้มเหลว ร้องไห้ ทำผิด ทำถูก ปรับปรุง แก้ไข ล้มแล้วลุก ลุกแล้ววิ่ง กระโดดข้ามอุปสรรค ฝึกสอนทีมงาน รักการแบ่งปัน เคี่ยวกรำให้มากพอ จนสำเร็จ ใครจะรู้ว่าความสำเร็จในวันนี้ ที่ทุกคนเห็นว่าง่าย เขาลุยมาหมดแล้ว คุณต้องเรียนรู้ (วิธีการ) จากคนสำเร็จ
แทนที่จะยึดติด (ภาพ) ความสำเร็จ ของคนอื่น พอตัวเองกระโจนลงสนาม ทำไปได้ 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน ท้อแท้ หมดกำลังใจ บ่นกับตัวเองว่า ทำไมเราทำไม่ได้เหมือนเขา เลิกดีกว่า Passive Income ข้าวจะกินแต่ละคำยังไม่มี นั่นแปลว่าคุณยังไม่ใช่คนเอาจริง เพราะคนจริง หัวจิตหัวใจต้องเอาจริงดั่งเพชรแท้ เพชรแท้ต่อให้ใครบอกว่าเป็นของปลอม เพชรก็ยังเป็นเพชรแท้อยู่วันยังค่ำ…
————————————————————–
รวยเร็ว รวยง่าย รวยสบาย = ไม่มีจริง
คนจริง ลุยจริง เอาจริง = สำเร็จจริง
————————————————————–
2. จำใจ จำเป็น หรือ เป็นแค่ข้ออ้าง
ถ้าเลือกได้ ทุกคนคงเลือกงานที่เป็น Passive Income …ถามกลับว่า แล้วทำไมไม่เลือก คำตอบคือ อยากเลือก แต่ต้องก้มหน้าก้มตาทำงานประจำ หาเช้ากินค่ำ ทำงานเพื่อเลี้ยงดูคนในครอบครัว และนอกจากคนในครอบครัวแล้ว
ต้องเลี้ยงดูอีกคน คือ “น้องแบงค์ เจ้าหนี้ธนาคาร” น้องแบงค์ เป็นคนนิสัยดี น่ารัก คุยง่าย มักจะมาในวันที่เราไม่มีหนี้ มีทรัพย์สิน มีกำลังมีแรง และด้วยความปรารถนาดี น้องแบงค์จะบอกให้เราเอาเงินอนาคตไปใช้ก่อน ไม่เป็นไร คนกันเอง
แล้วค่อยผ่อนใช้ก็ได้ …หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อคุณอยากมีอิสรภาพทางด้านการเงิน หรืออยากจะลาออกไปเป็นนายตัวเอง …คำตอบที่ดังที่สุดในหัวคุณก็คือ “เป็นไปไม่ได้” เพราะ Fixcost ตามมาหลอกหลอนคุณทุกเดือน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ค่าบัตรเครดิต ค่าโทรศัพท์รายเดือน ค่าใช้จ่ายสึนามิ คือ “ค่าใช้จ่าย สูงท่วมเงินเดือน จนกระดิกตัวไปไหนไม่ได้”
คุณต้องกลับมาคิดใหม่ ทำใหม่…
แยกให้ออกอะไรคือ สินทรัพย์ และ หนี้สิน
แยกให้ออกอะไรคือ สินทรัพย์ และ หนี้สิน
สินทรัพย์ คือ …อะไรที่สร้างรายได้ เข้ากระเป๋าคุณ เรียก “สินทรัพย์”
หนี้สิน คือ …อะไรที่ทำให้รายได้ ออกจากกระเป๋าคุณ เรียก “หนี้สิน”
หนี้สิน คือ …อะไรที่ทำให้รายได้ ออกจากกระเป๋าคุณ เรียก “หนี้สิน”
เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือ…
รถ …ซื้อมาแล้ว จอดเฉยๆ ไม่ได้เกิดมูลค่า เรียก หนี้สิน นับวันยิ่ง เสื่อมค่า เสื่อมราคา
รถ …ซื้อมาแล้ว ขับไปขายของ เอาไปปล่อยเช่า เอาไปเปิดบริการขนย้ายสิ่งของ เรียก สินทรัพย์
รถ …ซื้อมาแล้ว ขับไปขายของ เอาไปปล่อยเช่า เอาไปเปิดบริการขนย้ายสิ่งของ เรียก สินทรัพย์
มือถือไอโฟน …ซื้อมาแล้ว เล่นเกมทั้งคืน เล่นแชททั้งวัน สร้างแลนด์มาร์คโคตรรวยในเกม แต่โคตรจนในชีวิตจริง
แบบนี้เรียก หนี้สิน ลงทุนเป็นหมื่นแต่เอาเงินคืนไม่ได้ คุณกำลังเสียเปรียบสุดๆ
แบบนี้เรียก หนี้สิน ลงทุนเป็นหมื่นแต่เอาเงินคืนไม่ได้ คุณกำลังเสียเปรียบสุดๆ
มือถือไอโฟน …ซื้อมาแล้ว แชทตอบลูกค้า โทรหาคอนเนคชั่น ปั่นยอดขาย ปั่นกำไร สร้างฐานลูกค้าด้วย Social Media
LINE , Facebook , Instagram เปลี่ยนมือถือเป็นตู้ ATM ขนาดพกพา แบบนี้เรียก ทรัพย์สิน…
LINE , Facebook , Instagram เปลี่ยนมือถือเป็นตู้ ATM ขนาดพกพา แบบนี้เรียก ทรัพย์สิน…
ส่วนแฟน ภรรยา สามี ลูก เพื่อน …อันนี้ปล่อยให้เป็นการบ้าน ไปคิดต่อกันเอาเองนะครับ …เรื่องนี้ ริวจะไม่ยุ่ง
————————————————————–
เงินล้าน ยากที่สุด คือ ล้านแรก
หลังจากนั้น แสนง่าย หมื่นง่าย พันง่าย
————————————————————–
3. อะไรสำคัญที่สุดหรับคุณ … เงิน งาน ชีวิต
มีเงิน มีงาน ไม่มีชีวิต – คุณเอาไหม // มีเงิน ไม่มีงาน ไม่มีชีวิต – คุณเอาไหม
ไม่มีเงิน มีงาน มีชีวิต – คุณเอาไหม // ไม่มีเงิน ไม่มีงาน มีชีวิต – คุณเอาไหม
ไม่มีเงิน มีงาน มีชีวิต – คุณเอาไหม // ไม่มีเงิน ไม่มีงาน มีชีวิต – คุณเอาไหม
หากมองในมิติทั่วไป คุณจะแยกไม่ได้ เพราะมันสำคัญทั้ง 3 อย่าง เงิน งาน ชีวิต เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนขับเคลื่อนด้วยปัจจัยเหล่านี้ แต่หากมองให้ลึกลงไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ชีวิต” ถ้าคุณไม่มีชีวิต ทุกอย่างจบทันที ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
งานไม่เกิด เงินไม่มา เมื่อคุณเข้าใจว่าชีวิตคุณสำคัญที่สุด คุณจะอยู่เหนือเงิน ทำไมผมถึงให้คุณคิดแบบนั้น ถ้าคุณอยู่เหนือเงินเมื่อไหร่ คุณจะเป็นนายของเงิน ไม่ใช่ทาส เงินจะเป็นทาสความสามารถคุณอีกชั้นนึง
คน 90 % หางานทำ ทำเหมือนคนส่วนใหญ่ ปลอดภัยไว้ก่อน เขาจึงเป็นทาสเงิน
คน TOP 10 % พัฒนาความสามารถสุดขีด เป็นเจ้าของระบบ เงินไหลมาเทมา
คน TOP 10 % พัฒนาความสามารถสุดขีด เป็นเจ้าของระบบ เงินไหลมาเทมา
สมัยผมเรียนจบใหม่ๆ งานแรกที่ผมทำคือ ดีเจรายการวิทยุ ต่อมาผมไปทำงานไฟแนนซ์ในบริษัทท้องถิ่นแถวบ้าน ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์ งานหนักงานเบาผมเอาหมด ตั้งแต่เปิดออฟฟิศ กวาดพื้น ถูพื้น ทำงานเอกสาร รับลูกค้า รับชำระงวด การเงิน สินเชื่อ ทวงหนี้ ไปส่งเอกสาร ไปโอนรถขนส่ง ไปต่างจังหวัดพบลูกค้า ผมไปหมด ผมทำงานดี ขยันขันแข็ง
เจ้านายเลยเลื่อนให้ไปล้างรถ (ให้งานเพิ่ม ค่าแรงไม่เพิ่ม) บางวันว่างไม่มีลูกค้า แกก็ใช้ให้ไปล้างรถ รถในบริษัทมีกี่คันล้างให้หมด ล้างรถเสร็จ ไปเบิกเงินธนาคารมาให้ลูกค้า เอาเงินมาให้ลูกค้าเสร็จ บ่ายมีสัมภาษณ์พนักงานใหม่ ผมนั่งเก้าอี้ผู้จัดการ สัมภาษณ์งานแทนเจ้าของบริษัท ได้พนักงานใหม่มา ผมทำหน้าที่เทรนงาน สอนงานทุกอย่างจนเก่ง วันไหนว่างๆ ไม่มีลูกค้า
ผมขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปแจกใบปลิว ออกไปพบลูกค้า ท่ามกลางแดดร้อนระอุจนผิวไหม้ ช่วงไหนเจ้านายนึกแคมเปญอะไรได้ ก็โยนไอเดียมาให้ผมทำต่อ ผมก็ทำหมดทั้งอัดสปอร์ตรายการวิทยุ ออกแบบของแจกพรีเมี่ยม คุยกับโปรแกรมเมอร์เพื่ออัพเกรดโปรแกรมไฟแนนซ์ในบริษัท คุณคิดว่าที่ผมเล่ามาทั้งหมด ถ้าเป็นคุณ คุณควรได้เงินเดือนเท่าไหร่ครับ 15,000 , 20,000 , 25,000
ถ้าเงินเดือนที่คุณได้รับตอนนี้มากกว่าผม ขอแสดงความยินดีด้วยครับ เงินเดือนผมสตาร์ท 4,500 บาท ใช่ครับ คุณอ่านไม่ผิด เงินเดือน 4,500 ไม่มีคอมมิชชั่น ไม่มีเบี้ยเลี้ยง ไม่มี OT และผมไม่รับค่าน้ำร้อนน้ำชาจากลูกค้า เพราะผมรู้ว่าเงินที่ให้เราได้ง่ายๆ ด้วยความไม่ถูกต้อง แต่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อของคนให้ มันเป็นเงินร้อน ใช้ไปก็ไม่มีความสุข
และมันก็ไม่ได้ทำให้รวยขึ้นแน่นอน …ที่เล่ามาทั้งหมด ผมกำลังจะบอกคุณว่า คุณต้องใช้เวลาในการฝึกฝน พัฒนาตัวเองให้ขึ้นไปบนท้องฟ้าให้ได้ คำว่า Get Rich Quick รวยง่าย รวยข้ามคืน เป็นมุก เอาไว้หลอกคนโลภเท่านั้น เมื่อใดที่คุณเป็นเจ้าของระบบ มีระบบทำงานแทน คำว่า Passive Income เป็นไปได้จริงอย่างแน่นอน
4. รายจ่าย Need รายได้ Want
ปัจจุบันชีวิตคุณเป็นแบบไหน ?
- ทำงานแบบกังวล ใช้เงินแบบกังวล ดูเวลาแบบกังวล หรือ…
- มีชีวิตแบบไร้กังวล มีรายได้แบบไร้กังวล มีเวลาแบบไร้กังวล
คนส่วนใหญ่ …เป็นอย่างแรก คือ มีรายได้แบบ Want อยากมี อยากได้ อยากรวย แต่ไม่ลงมือทำอะไรอย่างจริงจัง คิดว่าวันนึง ชีวิตจะดีขึ้น …ถ้าคุณทำอะไรแบบเดิมเหมือนเมื่อวาน แบบเดือนที่แล้ว แบบปีที่แล้ว ไม่มีทางที่จะมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างที่คุณต้องการ
ในขณะที่รายจ่าย Need …เป็นรายจ่าย ที่จำเป็นต้องจ่าย ทุกเดือน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบัตรเครดิต ค่าใช้จ่ายต่อเดือนมากมาย
น่าแปลก ที่คนส่วนใหญ่ มีรายได้ทางเดียว แต่มีความสามารถสร้างรายจ่ายหลายทางได้ ไม่ว่าจะมีรายได้มากแค่ไหนก็ตาม
น่าแปลก ที่คนส่วนใหญ่ มีรายได้ทางเดียว แต่มีความสามารถสร้างรายจ่ายหลายทางได้ ไม่ว่าจะมีรายได้มากแค่ไหนก็ตาม
ปัจจุบัน…
คุณเก่งเรื่อง สร้างรายได้ หรือ ถนัดสร้างรายจ่าย
ถ้าเก่งสร้างรายได้ ในอนาคต คุณจะมีเงิน มีเวลา มีรายได้ และสามารถสร้างรายได้มากกว่าปัจจุบัน …ตรงกันข้าม ถ้าคุณถนัดสร้างรายจ่าย ทำนายได้เลยว่าในอนาคต ไม่มีทางรวยแน่นอน
ทางแก้คือ…
1. สร้างรายได้มากกว่า 1 ทาง …ปัจจุบันถ้าคุณทำงานประจำ มีรายได้แบบ Active Income คุณต้องสร้างรายได้อีกทาง เป็น Active Income หรือ Passive Income เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดของชีวิต
2. สร้างรายจ่ายที่มีมูลค่าเพิ่ม …สร้างรายจ่ายที่มีมูลค่า ถ้าคุณต้องจ่ายเงินทุกครั้ง นอกจากเรื่องช้อปปิ้ง กินข้าว ดูหนังแล้ว รายจ่ายที่มีมูลค่า ง่ายที่สุดคือ ซื้อหนังสือสักเล่ม Audio Book สักแผ่น หรือ ลงทุนที่มีผลตอบแทนกลับคืนมาทุกเดือน ไม่ช้าในอนาคตรายจ่ายของคุณจะสร้างมูลค่าเพิ่มมากกว่าในปัจจุบัน 2-10 เท่า (ถ้าคุณเรียนรู้และนำไปใช้ให้เกิดผลลัพธ์)
————————————————————–
“ยุคนี้ เป็นยุคที่ งานประจำ กับ ความมั่นคง เล่นซ่อนหา
ถ้าคุณหา งานประจำ เจอ คุณมักจะหา ความมั่นคง ไม่เจอ”
————————————————————–
5. โฟกัสระยะสั้น ระยะยาว
ถ้าคุณปลูกถั่วงอก แน่นอนภายใน 3 วัน คุณจะเก็บผลผลิตกินได้เลย แต่ถ้าคุณปลูกมะม่วงต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเก็บผลผลิตกินได้ ผมกำลังจะบอกว่า คุณโฟกัสที่ระยะสั้นแบบคนทั่วไป หรือคุณมองระยะยาวแบบเจ้าของธุรกิจ
ทุกสิ่งทุกอย่างมีเวลาเป็นตัวสะสมความสำเร็จ อย่าไปทำตามคนส่วนใหญ่ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นคนมี Passive Income คุณต้องเรียนรู้เรื่องเงิน ถ้าวันนี้คุณยังไม่มี Passive Income เพราะคุณยังไม่เข้าใจเงินอย่างแท้จริง การโฟกัส หรือ การพุ่งเป้าไปที่เรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นสิ่งที่ดี
แต่ในปัจจุบัน หลายคนโฟกัสไปหลายจุด จนเป้าหมายเบลอไปหมด โฟกัสสิ่งที่คุณจะให้กับผู้คนมากกว่าโฟกัสเรื่องเงินเพียงอย่างเดียว หมั่นสร้างทรัพย์สินสะสมเรื่อยๆทุกวัน ในไม่ช้าทรัพย์สินนั้นจะสร้างรายได้กลับมาในรูปแบบของ Passive Income
ตัวอย่างเช่น
Blogger ทรัพย์สินของบล็อกเกอร์ คือ บทความ คุณต้องสร้างบทความที่มีคุณค่า
นักลงทุน ทรัพย์สินของนักลงทุน คือ Asset คุณต้องเรียนรู้การสร้าง Asset ที่มีคุณภาพ
นักเขียน ทรัพย์สินของนักเขียน คือ หนังสือเล่ม คุณต้องสร้างลิขสิทธิ์ผลงานของคุณ
เจ้าของกิจการ ทรัพย์สินของเจ้าของกิจการ คือ พนักงานในองค์กร คุณต้องเทรนให้พนักงานมีคุณภาพมีความสุขในการทำงาน
นักลงทุน ทรัพย์สินของนักลงทุน คือ Asset คุณต้องเรียนรู้การสร้าง Asset ที่มีคุณภาพ
นักเขียน ทรัพย์สินของนักเขียน คือ หนังสือเล่ม คุณต้องสร้างลิขสิทธิ์ผลงานของคุณ
เจ้าของกิจการ ทรัพย์สินของเจ้าของกิจการ คือ พนักงานในองค์กร คุณต้องเทรนให้พนักงานมีคุณภาพมีความสุขในการทำงาน
6. เครื่องจักรผลิตเงิน
ถ้าคุณจะสร้างเครื่องจักรผลิตเงินให้เป็น Passive Income ขอให้ยึดหลักดังต่อไปนี้…
1.เป็นลิขสิทธิ์ได้ …เป็นหนังสือเล่ม หนังสือเสียง (Audio Book) เพลง แฟรนไซส์ สิ่งประดิษฐ์ เป็นนวัตกรรม เป็นภาพถ่าย เป็นไฟล์ดิจิตอล (Digital Product)
2.ปล่อยเช่าได้ …ส่วนใหญ่จะเป็นอสังหาริมทรัพย์ บ้าน ที่ดิน คอนโด อพาร์ทเม้นต์ อาคารพาณิชย์ รีสอร์ท หรือ เรือเช่าท่องเที่ยว
3.สร้างคอนเน็คชั่นได้ …ธุรกิจเครือข่าย เป็นธุรกิจแห่งการสร้างคอนเน็คชั่น ถ้าคุณมีคอนเน็คชั่นที่ดี คุณมีโอกาสจะประสบความสำเร็จอย่างสูงในการสร้าง Passive Income
4.ทำออนไลน์ได้ …ยุคนี้ถ้าคุณมัวแต่ทำธุรกิจออฟไลน์ คุณกำลังตกยุค เพราะใครก็ตามที่ใช้เครื่องมือออนไลน์เป็น จะได้เปรียบคู่แข่งทันที 10 เท่า คุณต้องสำรวจดูว่า ทำเป็นออนไลน์ได้หรือไม่ …ออนไลน์คุณสามารถทำได้หลายช่องทางไม่ว่าจะเป็น Adsense ปล่อยพื้นที่ลงโฆษณา ซื้อ-ขายเว็บไซต์ เป็นนายหน้าออนไลน์ เป็นตัวแทน Affiliate , Dropship , หารายได้จาก Youtube Partner
5.เงินต่อเงินได้ …ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของ กองทุนรวม หุ้น ทองคำ น้ำมัน ถ้าคุณจะสร้าง Passive Income ในรูปแบบนี้ ผมแนะนำควรศึกษาให้ดี เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง เสี่ยงแล้วได้ กับ เสี่ยงแล้วขาดทุน การลงทุนต้องอาศัยความรู้ ถ้าไม่มีความรู้ สุดท้ายเจ๊งหมดตัว
7. หลักคิดการสร้างระบบ Passive Income
Passive Income …คนส่วนใหญ่จะได้ยินคำนี้จาก ธุรกิจเครือข่าย ความเป็นจริง Passive Income ไม่ได้จำกัดแค่ธุรกิจเครือข่าย เพียงอย่างเดียว ทุกธุรกิจสามารถทำให้เป็น Passive Income หากสามารถออกแบบระบบควบคุมงานได้…
ตัวอย่างเช่น…
ร้านขายกาแฟ …ถ้าคุณต้องการเปิดร้านกาแฟ คุณต้องเรียนรู้เรื่องการบริหาร
ต้นทุน บัญชี การเงิน การตลาด เทคนิคการชงกาแฟตามสูตร การหาลูกค้า เมื่อใช้…
ต้นทุน บัญชี การเงิน การตลาด เทคนิคการชงกาแฟตามสูตร การหาลูกค้า เมื่อใช้…
หลักการของ Passive Income คือ เอาตัวคุณออกจากระบบ
คุณต้องจ้างคนมาขายกาแฟแทนคุณ …ตราบใดที่ร้านกาแฟยังไปได้ดี มีรายได้เข้ามาทุกวัน เพียงเท่านี้คุณก็มีรายได้แบบ Passive Income เรียบร้อยแล้ว …ถ้าคุณเข้าใจอะไรผิดๆเกี่ยวกับ Passive Income ที่บอกว่า ไม่ต้องทำอะไรเลย ลงทุน ลงเงิน นอนกระดิกเท้ารายได้โอนเข้าบัญชีทุกเดือน เปิดร้านกาแฟ แต่ไม่รู้การบริหารร้านกาแฟเลย แบบนั้นระวังครับ ระวังจะโดนต้มเหลือแต่กระดูกแขวนคอ
Passive Income ไม่ได้หมายความว่า ไม่ต้องทำอะไร คุณต้องเข้าไปดูแลธุรกิจบ้าง แต่ไม่จำเป็นดูแลตลอด เข้าไปตรวจสอบ เข้าไปดูระบบว่า ที่เซ็ทไว้ ยังทำงานได้ดีหรือไม่ รายได้เป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้รึเปล่า เป็นหลักคิดเบื้องต้นของ Passive Income
8. ก๊อกน้ำทั่วไป VS ก๊อกน้ำ Automatic
คนบนโลกนี้ ไม่ว่าจะรวยหรือจน ต่างมีกิจกรรมเหมือนกันอยู่อย่างนึงก็ คือ ตื่น ทำงาน ทานข้าว นอน
ต่างกันตรงที่ คนทั่วไปกิจกรรมจะไม่หนีจากนี้มากเท่าไหร่ ในขณะที่คนรวยมีกิจกรรมเยอะแยะมากในแต่ละวัน
และล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมชีวิต ธุรกิจ คอนเน็คชั่นทั้งสิ้น
และล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมชีวิต ธุรกิจ คอนเน็คชั่นทั้งสิ้น
ผมขอสรุปแบบเข้าใจง่ายๆก็คือ งานในโลกนี้แบ่งเป็น 2 รูปแบบ
Active Income กับ Passive Income
Active Income กับ Passive Income
Active Income คือ ลงทุน ลงแรง ลงเวลา แลกมาด้วย “เงิน”
Passive Income คือ ลงทุน ลงแรง ลงเวลา สร้าง Asset แล้วให้ Asset ผลิต “เงิน”
Passive Income คือ ลงทุน ลงแรง ลงเวลา สร้าง Asset แล้วให้ Asset ผลิต “เงิน”
เปรียบเทียบ…
ก๊อกน้ำแบบ Active …ต้องกด ต้องหมุน ต้องโยก น้ำจึงไหล
ก๊อกน้ำแบบ Passive …แค่เอามือไปรอง ระบบเซ็นเซอร์ จะทำให้น้ำไหลเองแบบ Automatic
ก๊อกน้ำแบบ Passive …แค่เอามือไปรอง ระบบเซ็นเซอร์ จะทำให้น้ำไหลเองแบบ Automatic
ต่างกันคือ Active ถ้าคุณหมดแรง ป่วย ไม่ได้ทำงาน คุณจะไม่ได้ “เงิน”
แบบ Passive แม้คุณไม่มีแรง ไม่มีเวลา หรือหยุดไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศ คุณก็ยังมี “รายได้”
จาก Asset เสม่ำเสมอทุกวัน แต่ก่อนที่จะมีแบบนั้นได้ Step แรกคุณต้องออกแรงสร้างระบบก่อน
จาก Asset เสม่ำเสมอทุกวัน แต่ก่อนที่จะมีแบบนั้นได้ Step แรกคุณต้องออกแรงสร้างระบบก่อน
9. ทัศนคติ กินเงินเดือน & กินผลลัพธ์
ทัศนคติเป็นเหมือนเข็มทิศ นำทางชีวิต ภายในคุณเป็นแบบไหน ภายนอกมักแสดงออกแบบนั้น
คุณต้องสำรวจครับว่า …ทัศนคติของคุณในปัจจุบัน คุณเป็นคนประเภทไหน…
คุณต้องสำรวจครับว่า …ทัศนคติของคุณในปัจจุบัน คุณเป็นคนประเภทไหน…
- กินเงินเดือน
- กินผลลัพธ์
กินเงินเดือน …คุณมุ่งมั่น ตั้งใจ ทำงานเต็มที่ ทั้งเดือน เพื่อที่จะได้รับเงินตอนสิ้นเดือน รายได้แบบนี้ มักเป็นรายได้ทางเดียว คุณอยากมีรายได้หลายทางก็ไม่สามารถทำได้ ด้วยกรอบเวลาถูกจำกัด และคุณไม่สามารถแยกร่างได้
กินผลลัพธ์ …คุณต้องลงทุน แรงกาย แรงใจ เหนื่อยหนัก สู้ไม่ถอย ผลลัพธ์ปลายทาง คือ มีรายได้เข้ามาทุกเดือน หลังทำงานเสร็จ แบบนี้เรียก ทัศนคติแบบเจ้าของระบบ คุณสามารถแยกทำได้ ด้วยการจ้างคนทำงานแทน หรือให้ระบบทำงานแทน เช่น ระบบที่ 1 เสร็จเรียบร้อย ระบบที่ 2 Run ต่อได้ทันที วนเป็นลูปในการสร้างรายได้ให้คุณทุกเดือน…
————————————————————–
“ ความจริงคนไม่ได้กลัว ตกงาน
พวกเขากลัว ผลลัพธ์ หลังตกงานมากกว่า ”
————————————————————–
10. คุณเกิดมาเป็นเจ้านายระบบ หรือ ให้ระบบเป็นเจ้านายคุณ
ระบบเป็นเจ้านาย คือ การทำให้คุณไม่สามารถทำได้ในสิ่งที่คุณอยากทำ พวกเขาจะฝึกสอนให้คุณเป็นหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ที่มีสมอง มีความคิด แต่ต้องทำงานอยู่ในกรอบ ในกฎระเบียบ และเป้าหมายที่บริษัทกำหนด หากมีใครฝ่าฝืนกฎถือว่าคุณไม่เคารพนโยบายบริษัท ควบคุมคุณด้วยเครื่องตอกบัตร ใช้ชีวิตแบบ 9-to-5 ทุ่มเททำงานชมว่าดี แต่ไม่มี OT โอ้ว… พระเจ้าช่วยกล้วยทอด…
ระบบเป็นเจ้านาย คือ การทำให้คุณไต่เต้าจากตำแหน่งระดับล่าง วันแล้ววันเล่า เรียนมา 19 ปีในระบบการศึกษา ได้ใบปริญญามา 1 ใบ เพื่อที่จะเอาไปสมัครงานกับบริษัท ด้วยการอธิษฐานในใจว่า รับฉันเข้าทำงานด้วยเถอะ ขอร้อง… ครอบครัวคุณต้องหมดเงินไปเป็นล้าน เพื่อที่จะให้คุณมารับเงินเดือนที่ 9,000 บ้าง 12,000 บ้าง 15,000 บ้าง ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า อดทน อดทน อดทน กว่าคุณจะไต่เต้าขึ้นตำแหน่งสูงของบริษัท อาจต้องใช้เวลา 3-10 ปี หรือนานกว่านั้นหากผลงานยังไม่เข้าตานายจ้าง หรือ มีเด็กเส้นคุณอาจต้องรอนานหน่อย รอจนผมหงอก
เป็นเจ้านายระบบ คือ การที่คุณสร้างระบบธุรกิจของคุณเอง ออกแบบเอง คิดเอง ลงทุน ทุ่มเท ความรู้ ไอเดีย มันสมอง เพื่อสร้างระบบสำเร็จรูปขึ้นมา เส้นทางเจ้านายระบบ แรกเริ่มหนทางจะขรุขระ ไม่คุ้นชิน ทำไปคิดไป กูมาถูกทางรึเปล่าว้า… ฆ่าตัวตายรึเปล่าน้อ… อยู่ในระบบก็ดีอยู่แล้ว ปลอดภัยทั้งกายและใจ ทำไปสงสัยไป ลงแรง ลงเงิน ยังไม่เห็นผลลัพธ์ แต่วันที่ระบบเสร็จเรียบร้อย ผมเชื่อว่าแม้ว่าเดือนแรก หรือ 3 เดือนแรก ระบบผลิตเงินให้คุณได้แค่ 5,000-10,000 คุณก็ดีใจจนเนื้อเต้นแล้ว
เป็นเจ้านายระบบ คือ การคิดแบบนักธุรกิจ คุณอาจจะผลิตสินค้าเป็นของตัวเอง สินค้าที่เป็น (Physical Product) สินค้าจับต้องได้ หรือ (Digital Product) สินค้าที่จับต้องไม่ได้ ถ้าในอนาคตยอดขายคุณสูงขึ้นจนไม่มีเวลาแพ็คของ ส่งของ คุณจำเป็นต้องใช้ (Outsource) ผู้ให้บริการขนส่งคนกลาง เข้ามาช่วยคุณส่งสินค้าไปให้ลูกค้าแทนในนามคุณ หากเป็นสินค้าจับต้องไม่ได้ ให้คุณเซ็ทระบบในเว็บไซต์ออนไลน์ เพื่อเป็นตัวกลางในการส่งสินค้าให้ลูกค้าทางอีเมลอัตโนมัติหลังจากที่ลูกค้าชำระเงินเข้ามาแล้ว ภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าคุณติดตั้งระบบเรียบร้อย ไม่ว่าคุณจะนอนหลับ หรือ ไปเที่ยวพักผ่อนชายทะเล ระบบก็ยังคงทำงานอัตโนมัติตามที่คุณกำหนดไว้
ทั้งหมดเป็น 10 ขั้นตอนเบื้องต้นให้การเรียนรู้พื้นฐาน Passive Income เพื่อให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และไม่หลงเข้าใจผิดว่า Passive Income เป็นเรื่องที่ยากเกินไปไม่สามารถเป็นจริงได้ หรือง่ายจนเกินไป จนคุณไม่ต้องทำอะไรเลย เมื่อคุณเข้าใจหลักคิดที่ถูกต้องแล้ว คุณจะสามารถเลือกสร้างเครื่องผลิตเงินของคุณ ให้เหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุดได้ครับ
————————————————————–
หาวิธีทำงานสัก 5 ปี
แล้วมีเงินใช้ทั้งชีวิตให้เจอ ถ้ายังไม่เจอ
หาต่อไปจนเจอ ถ้ายังไม่เจออีก ถามคนที่หาเจอแล้ว
————————————————————–
– Jack Ma –
==================
บทความโดย…
พชร พูลเพิ่ม (ป๊อป)
Content Creator
Leader Wings Co., Ltd.
บทความโดย…
พชร พูลเพิ่ม (ป๊อป)
Content Creator
Leader Wings Co., Ltd.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น