งีบดี...มีประโยชน์ เคล็ดลับการงีบที่เหมาะสมและได้ผลดีที่สุด - BeeLoSoPhy

BeeLoSoPhy

ไลฟ์สไตล์ ท่องเที่ยว ออกกำลังกาย ครอบครัว สุขภาพ

24 ธันวาคม 2558

งีบดี...มีประโยชน์ เคล็ดลับการงีบที่เหมาะสมและได้ผลดีที่สุด


การทำงานแต่ละวัน เชื่อว่ามีบางคนเคยงีบหลับที่ทำงาน และบางคนยิ่งช่วงงานใกล้ถึงกำหนดส่ง หอบงานกลับไปทำช่วงกลางคืน ก้มหน้าก้มตาอยู่กับกระดาษและตัวหลังสือจนแทบสายตาไม่ได้พักแบบนี้ ตกกลางวันมานั่งงีบที่ทำงาน ดูแลไม่สมควรอย่างยิ่ง แต่การเปิดให้ตัวเองงีบหลับระหว่างวันอยู่บ้าง…ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพ กายและใจ แต่ก็ต้องมีศิลปะของการงีบหลับไว้ด้วย  แล้วศิลปะการงีบที่เหมาะสม ทำให้สมองปลอดโปร่งขึ้นและได้ผลดีมากๆ เป็นอย่างไรมาดูกัน

การงีบ (napping) 


     ช่วยเพิ่มช่วงเวลาการนอนหลับ ทั้งแบบหลับลึก (slow-wave) ที่ดีกับสุขภาพกาย ทำให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนสึกหรอของร่างกายได้มากขึ้น และแบบหลับฝัน (REM - หลับตื้นและฝัน) ที่ดีกับสุขภาพใจ ทำให้ความเครียดทางใจลดลง


ช่วง 10-20 นาที


     นี่เป็นระยะเวลานอนที่ เพิ่มพลังงานและความสดชื่น เพราะเวลาเพียงแค่ 10-20 นาทีจะทำให้การนอนของเราอยู่ในช่วง non-rapid eye movement (NREM) เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะตื่นขึ้นมาแล้วกระปรี้กระเปร่า กระฉับกระเฉง สมองโปร่งใส หรือลุกขึ้นมาทำโน่นทำนี่ได้อย่างคล่องแคล่วไม่ค่อยมีอาการสะลึมสะลือเท่าไหร่นัก เขาจึงเรียกการงีบในระยะเวลานี้ว่า "power nap"

 ช่วง 30 นาที

     การนอนครึ่งชั่วโมงไม่เป็นผลดีต่อเรานักหรอก นักวิจัยเขาบอกว่า หลังจากตื่นขึ้นมา เราจะมีอาการมึนๆ งงๆ ยังง่วงๆอยู่ อาจปวดหัวนิดหน่อยด้วย (เหมือนคนที่เพิ่งสร่างเมา อะไรอย่างนั้น) และอาการนี้กว่ามันจะหายไปก็อีกประมาณ 30 นาทีโน่นแหละ
ดูสิ..แค่ 10 นาทีที่เพิ่มขึ้นมาก็ส่งผลที่แตกต่างกันแล้วเห็นไหม?


ช่วง 60 นาที

      การนอนประมาณ 1 ชั่วโมง จะส่งผลดีต่อการจำ เพราะว่ามันเป็นการนอนที่ทำให้เราอยู่ในช่วง slow-wave sleep ซึ่งเป็นช่วงการหลับที่ลึกที่สุด แต่ผลข้างเคียงของมันก็คือ ตื่นมาจะมึนๆ งงๆ เบลอๆ ช่วงหนึ่ง เหมือนเจ้า 30 นาที แต่หลังจากอาการข้างเคียงหายไป เราก็จะจำโน่นนี่ได้เหมือนกัน เหมาะสำหรับพวกทำงาน แบบหามรุ่งหามค่ำก่อนส่งงาน
   

ช่วง 90 นาที

     เป็นระยะเวลาการนอนที่ครบรอบสมบูรณ์ คิดง่ายๆก็คือ เวลาเรานอนมันก็เหมือนนาฬิกา พอครบ 90 นาทีปุ๊บ นี่ก็คือ 1 รอบสมบูรณ์ ซึ่งมันจะมีทั้งการนอนแบบหลับลึก กับหลับสบายๆไม่ลึกนัก รวมทั้ง REM stage (Rapid Eye movement) ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเราก็จะฝันในช่วงนี้  การนอนในระยะเวลานี้จะช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆจะแล่นเข้ามาได้ดีขึ้น และที่สำคัญช่วยทำให้เราจำได้ดีขึ้น จินตนาการสร้างสรรค์ทำงานได้เต็มที่ การนอนแบบนี้ พอตื่นขึ้นมาก็จะกระปรี้กระเปร่า ไม่งัวเงีย เหมือน 2 อันก่อนหน้านี้จ้า


     แต่ๆๆๆๆ......เวลางาน หากงีบนาน ขนาดนี้!! มีหวังได้งีบ 24 ชั่วโมง ทุกวันแง๋ๆ เลยมีรายงานถึงการงีบหลับในเวลา กลางวันๆ ออกมามากมาย ข้อมูลที่เชื่อกันก็คือ ไม่ควรงีบหลับในเวลากลางวันเกินกว่า 30 นาที มิฉะนั้นจะเข้าสู่การหลับลึก และได้มีข้อมูลว่า เวลาที่ดีที่สุดในการงีบหลับคือช่วง 12.00-16.00 น. ควรงีบประมาณ 20 นาที และหลังจากการงีบ ควรให้เวลาตัวเอง 10-15 นาที ล้างหน้า ดื่มน้ำเย็นๆ เพื่อให้สดชื่น ตื่นเต็มตา ก่อนปฏิบัติภารกิจการทำงานอย่างสดชื่นต่อไปจ้า....


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น