วิธีปฏิบัติเมื่อนั่ง TAXI คนเดียว ป้องกันไว้ก่อน ที่จะสายเกินไป - BeeLoSoPhy

BeeLoSoPhy

ไลฟ์สไตล์ ท่องเที่ยว ออกกำลังกาย ครอบครัว สุขภาพ

6 กรกฎาคม 2559

วิธีปฏิบัติเมื่อนั่ง TAXI คนเดียว ป้องกันไว้ก่อน ที่จะสายเกินไป



ที่เราต้องระมัดระวังตัวเวลานั่ง Taxi ไม่ใช่เรามองว่าคนขับทุกคนไม่ดีนะคะ แต่เพราะอาชีพ  taxi  เป็นอาชีพที่ใครมาขับก็ได้  ไม่ต้องทำประวัติอาชญากร   และก็มีคนที่ขับบางคนใช้อาชีพนี้ในทางไม่ดี    อย่างที่เราเห็นในข่าวมากมาย  และที่สำคัญคือ  เมื่อเราอยู่บนรถ ก็จะมีแต่เรา และ คนขับเท่านั้น   ถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้น......เราจะทำอย่างไรหล่ะ..... เราต้องมี วิธีป้องกันตัวเอง

เพราะฉะนั้นควรดูแลความปลอดภัยของตัวเองไว้หน่อย   เพราะกันไว้ย่อมดีกว่าแก้นะคะ

1.   วิธีการปฏิบัติตัวเริ่มตอนไหนดี..........

       เริ่มตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ  ตอนที่เราบอกทาง  ก็สังเกตว่า ในรถมีทะเบียนรถที่เป็นแผ่นเหล็กติดอยู่ที่ประตูหรือไหม   และแอบสังเกตว่าคนขับหน้าตา    ท่าทาง    ดูน่าไว้วางใจหรือไม่     มีอาการมึนเมาหรือเปล่า


2.   เมื่อขึ้นไปนั่งทำอะไรอันแรก..........

ควรจำ ทะเบียนรถทันที  จดใส่กระดาษไว้เลย หรือถ่ายรูป ส่ง line ข้อความต่างๆไปให้เพื่อน  ดูชื่อคนขับ  และดูรูป ว่าในใบที่ติดในรถกับคนที่ขับอยู่ตรงกันหรือไม่

แล้วจะให้ดีที่สุด โทรศัพท์เลยครับ โทรหาคนที่ท่านกำลังจะไปหา บอกไปเลยดังๆ ให้คนขับได้ยินว่า " ฉันขึ้นรถ TAXI เขียว-เหลือง ป้ายทะเบียน กทม. มจ.xxxx คนขับชื่อ นายxxxxx  xxxxxxxxxx  แต่หน้าตาไม่เหมือนในรูปที่โชว์นะ แล้วเจอกัน "  แล้วนั่งนิ่งๆ ไปเลย บอกทางอย่างเดียว ไม่ต้องอาย  ทำดี  อย่ากลัว 


3.   แล้วจะนั่งตรงไหนดีที่สุด..........

ถ้าเราโดยสารไปคนเดียวควรเลือก   นั่งเบาะหลังที่นั่งคนขับ  โดยนั่งให้ชิดประตูด้านขวา   เพราะมีเบาะกั้นและด้านเดียวกับคนขับ   เป็นการยากที่คนขับจะใช้อาวุธ  หรือสารเคมี   ยาสลบต่างๆ   ต่อผู้โดยสารโดยตรง  และเป็นการยากที่คนขับจะจู่โจมเหยื่อ  แต่เวลาจะลงเมื่อถึงที่หมายควรลงทางประตูด้านซ้ายคะ


4.    ถ้าไม่รู้ทาง   ทำไงดี ..........   

พยายามอย่าบอกว่าไม่รู้เส้นทางแถวนี้เลย   ถึงแม้มาจากต่างจังหวัดไม่รู้ทางเลย   ถ้าคนขับถามว่าไปทางไหนดี  ควรบอกไปว่า  ไปทางไหนก็ได้......แต่ให้ดีก็รถไม่ค่อยติด   และไม่เข้าซอยเปลี่ยว  (ถ้าไม่จำเป็น)   อย่าได้แสดงท่าทางไม่รู้เส้นทาง  ไม่รู้เรื่องเลย    เป็นลูกคุณหนูเพิ่งเคยเดินทางคนเดียวครั้งแรก  หรืออยู่ต่างจังหวัดเพิ่งเข้ากรุงเทพครั้งแรก  เพราะอาจเกิดอันตรายได้นะจ๊ะ   และถ้าไม่รู้ทางทั้งคนนั่งและคนขับ   อาจเปลี่ยนรถคันใหม่  หรือถามทางกับคนแถวนั้น  แต่ที่ๆ จอดถามต้องปลอดภัย   คนเยอะ ไม่เปลี่ยวเพราะ  อาจเป็นพวกเดียวกับ คนขับที่นัดแนะกันก็ได้ แต่ให้ดีถึงไม่รู้ทางเลย  แต่ถ้าจะไปไหนก็ควรดูๆทาง  หรือถามคนอื่นว่าตรงผ่านที่ไหนไว้บ้าง     


5.    คุยอะไรกับ  taxi  ได้บ้าง..........

ควรคุยกับคนขับเฉพาะเรื่องเส้นทางเท่านั้น   ไม่ควรคุยเรื่องส่วนตัว  หากเค้าชวนคุยเซ้าซี่   ควรตัดบทหรือนิ่งเสีย   หรือทำเสียงเคร่งขรึมให้เค้าเกรงใจ   แต่ถ้าเราไม่มั่นใจในแววตาของตัวเองว่า เข้มแข็งพอไหม  ก็ไม่ต้องไปสบตาคนขับ  วางมาดให้เค้าเกรงใจ  เพราะคนเหล่านี้เค้าจะชำนาญในการดูจากสายตา  และสีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง ของคนอยู่แล้ว คนขับบางคนอาจเริ่มคุยจากพูดถึงตัวเองเป็นคนดีอย่างโน้นอย่างนี้  เคยช่วยคนมาบ้างแล้ว  หรือเกลียดพวก  taxi ที่ทำตัวไม่ดี  หรือเตือนเราให้ระวัง taxi  อย่างนั้นอย่างนี้  ถ้าเราคุยโต้ตอบแบบว่าถูกคอหรือคล้อยตาม  ก็จะเริ่มเข้าเรื่องส่วนตัว  และพูดไปพูดมาก็เข้าเรื่องทะลึ่งๆ  หรือเอาเรื่องดูดวง มาทักว่าดูหมองๆเหมือนมีเคราะห์   ถ้าเราไปเชื่อก็จะแนะนำอาจารย์ที่เก่งให้แล้วขอเบอร์หรือจะพาไปเป็นพิเศษ  ลองจินตนาการเอาเองแหละกันนะคะ  ว่ามันอันตรายยังไงได้บ้าง

6.    ขณะนั่งสังเกตอะไรบ้าง..........

a.   ควรสังเกตุเส้นทางตลอดเลาที่ผ่าน    มองหาป้ายบอกชื่อถนน   ชื่อซอย   ซอยที่เท่าไหร่  ถ้ารู้สึกผิดปกติให้โทรหาญาติหรือเพื่อนโดยบอกเส้นทางที่ผ่านมาทุกระยะ

b.   บ่อยครั้งที่จะมีคนขับ  ปรับกระจกมองข้างหลัง   มาดูระดับขา  หรือ ระดับหน้าอก  เพราะฉะนั้น ถ้าขึ้นไปแล้วเห็นว่าคนขับปรับกระจกต่ำเกินไป   และอยู่ระดับที่มองเห็นขา  หรือหน้าอกเรา   ถ้าเป็นไปได้ควรลงเลย  เพราะมันแสดงถึงว่าคนขับคนนี้ไม่ให้เกียรติ ต่อผู้โดยสารผู้หญิง และบ่งบอกถึงว่าเค้าต้องคิดอะไรที่ไม่ดีอยู่บ้างแหละ  หรือว่าถ้าจะนั่งต่อไปควรเอากระเป๋า หรือเอามือมาปิดขา หรือเอามากอดอกไว้  วางตัวทำท่าทางให้ดูน่าเกรงใจ 
              แต่ก่อนอื่นเราก็ควรจะดูแลตัวเองเบื้องต้นไว้บ้างเช่น  ไม่แต่งตัวโป๊เกินไป  หรือ ถ้าจะแต่งโป๊หน่อย ควรมีเสื้อคลุมที่มิดชิด   ไม่ควรเปลี่ยนเครื่องแต่งกายในรถ  taxi  เพราะว่าตัวเราเองเคยเห็น  มีนักเรียนถอดเสื้อนักเรียนแล้วก็ใส่เสื้อที่จะไปเที่ยวข้างนอก  ถึงแม้จะใส่เสื้อกล้ามก็ตาม แต่มันก็คงดูไม่ดีนักหรอก  หรือถอดเสื้อคลุมเพื่อจะโชว์เสื้อสายเดียวที่คลุมข้างใน  หรือใส่เสื้อ 2 ตัวมา  แล้ว   ถอดตัวข้างนอกออก  หรือเปลี่ยนกางเกงในกระโปรง  มันอาจไม่โป๊  และอาจปลอดภัยกับคุณ เพราะคนที่ทำ  ก็คงต้องนั่งกันหลายคนแหละถึงกล้าทำ    แต่มันอาจไปกระตุ้นต่อมความเป็นชายของคนขับ   ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้โดยสารคนต่อๆ ไปได้ใครจะไปรู้   ก็ช่วยๆกัน  ผู้หญิงเหมือนกันนะ

c.    ควรสังเกตด้วยว่า คนขับเอามือมาที่ช่องแอร์บ่อยๆหรือฉีดสเปรย์อะไรที่ช่องแอร์ หรือไม่   ถ้าผิดสังเกต  รู้สึกมีอาการแปลกๆ   เช่น   รู้สึกปวดหัว  มึนหัว วิงเวียน  คลื่นไส้จะอาเจียน  ร้อนวูบไปทั้งตัว  หวิวๆเหมือนจะเป็นลม  ไม่มีเรี่ยวแรง แสดงว่าคุณอาจโดนมอมยาสลบ   ควรหาที่ปลอดภัยคนเยอะๆ สว่างๆ แล้วลงจากรถเลย  โทรหาญาติหรือเพื่อนทันที   หายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เยอะๆ หาที่พิงแล้วจะดีขึ้น  อย่าไปโวยวายตอนอยู่ในรถเพราะระหว่างที่คุณโวยวาย  คุณก็จะสูดเอายาสลบที่มันฟุ้งในรถเข้าไปอีก  และจะทำให้คุณสลบเร็วขึ้น 

d.   มีคนขับบางรายใช้วิธีมาช่วยขนสัมภาระของเรา  แล้วพยายามจะแตะเนื้อต้องตัวเราแบบดูไม่ตั้งใจ  เพื่อจะป้ายยาสลบใส่เรานั่นเอง


7.    สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำเวลานั่ง Taxi คือ.....

·       อย่าคิดว่า   “ คงไม่มีอะไรหรอก   นั่งตั้งหลายครั้งแล้วไม่เห็นมีอะไรเลย"  เพราะจะทำให้คุณปิดโอกาส ในการระมัดระวังภัยของตัวคุณเอง  
·       อย่าเผลอหลับบนรถ  taxi   เด็ดขาด   ไม่ว่าคุณจะเหนื่อย  ไม่สบาย  หรือเมาแค่ไหนก็ตาม


8.    หากเห็นท่าทางไม่ดี  ทำยังไงดีหล่ะ.......... 

หากเห็นท่าทางไม่ดี  เช่น  ถูกลวมลาม  คนขับรถพูดจาแทะโลม   รู้สึกวิงเวียน เหมือนโดนมอมยา   หรือคนขับรถออกนอกเส้นทาง ให้โทรหาญาติ  เพื่อนสนิท   หรือแฟนทันที  แจ้งรายละเอียดของรถ  ทะเบียน  สี  ยี่ห้อ  (หรือศูนย์ไหนถ้ามี)    และชื่อคนขับที่ติดอยู่ในรถ พร้อมกับรายละเอียดสถานที่  และเมื่อสบโอกาส   เช่น   รถติดไฟแดง  หรือรถชะลอความเร็วลง  ให้รีบหนีจากรถ  แล้วแจ้งตำรวจทันที


9.    ถ้ามันยิ่งขับเร็ว บอกให้จอด แล้วมันไม่จอด ทำไง?? 

ตั้งสติดีๆ เปิดประตู ออกสักด้านหนึ่ง ให้ประตูมัน ไปโบกสะบัด นอกรถ อยู่อย่างนั้น แหละ เดี๋ยวก็ต้องชน อะไรบ้าง เดี๋ยวก็ต้องมีคนเห็น อะไรแปลก เป็นจุดสังเกตุเอง ตำรวจระหว่างทางเห็นก็จะมาช่วยเอง
อย่ายอมให้มันพาไปในที่ลับตาคนได้ มีอะไรในรถ ขว้างไปเลย เล็งที่รถข้างๆ ให้ชาวบ้านเห็น


10.   ถ้ามันพาไปถึงที่เปลี่ยวแล้ว หล่ะ??

อย่ายอมให้มันประชิดตัว ชิงออกมาก่อน ถ้าไม่มีอาวุธป้องกันตัว ให้เอารถเป็นที่กำบัง ไม่ต้องไปไหน ถ้ามันแน่จริง จับให้ทัน วิ่งรอบรถนั้นแหละ ตะโกนร้องให้คนช่วย ถ่วงเวลาไปก่อน
คนร้าย มันจะมีความตั้งใจที่จะทำร้ายได้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น หากเลยเวลาช่วงนั้นไปแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะ ล้มเลิก หนีเอาตัวรอด
แต่ถ้านานแล้ว ยังไม่มีใครมาช่วย แล้วมันก็ยังไม่ไปไหน หาโอกาสดีๆ ตะโกนดังๆ ว่า  "ตำรวจมา ตำรวจช่วยด้วย " แล้ววิ่งสุดชีวิต

เพราะคนร้าย มีความกลัวตำรวจอยู่แล้ว เราตะโกนว่า ตำรวจมา มันก็ตกใจ จะหาทางหนีให้ตัวเองเหมือนกัน จังหวะนั้น เราคงนำหน้ามันได้สัก 100 เมตร   เชื่อมั่นในฝีเท้าหญิงไทย



หมายเลขโทรศัพท์ด่วนแจ้งตำรวจ   คือ  191
สถานีวิทยุ  จส.100                       คือ   1137
สถานีวิทยุ  สวพ.91                      คือ   1164



--------------------------------------------
Cr. :  http://www.thaibodyguard.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น